แบรนด์นาฬิกาชั้นสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมรูปทรงแปดเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ Audemars Piguet Royal Oak หนึ่งในคอลเลคชันที่ถือเป็นไอคอนที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกจดจำได้เป็นอย่างดี ถือเป็นรูปทรงที่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการเรือนเวลา ซึ่งในขณะนั้นไม่ว่าแบรนด์ไหน ๆ ก็ยังยึดติดอยู่กับรูปลักษณ์ดั้งเดิม จนทำให้ในปัจจุบันไม่ว่าใครก็อย่างครอบครองนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมนี้ทั้งนั้น
Royal Oak ได้สร้างภาพจำและมาตรฐานการดีไซน์ไว้ในระดับสูงลิ่ว จนใคร ๆ ต่างก็คาดหวังว่าคอลเลคชันต่อ ๆ ไปจะต้องมีลักษณะใกล้เคียงรูปแบบเดิม คือมีความทันสมัย แฝงความคลาสสิก จนกระทั่ง Audemars Piguet Code 11.59 ถูกเปิดตัวต่อสาธารณชน ด้วยคอนเซปต์หวนคืนรอยประวัติศาสตร์ พร้อมงานฝีมือชั้นสูงและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนออกมาเป็นรูปลักษณ์นาฬิกาที่ดูแปลกตาไป เมื่อเทียบกับคอลเลคชันรุ่นพี่อย่าง Royal Oak จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกออกเป็นสองเสียง ทั้งในแง่ดีและแง่ลบในเวลาต่อมา
Code คืออะไร?
CODE เป็นตัวย่อของคำที่มีความหมายลึกซึ่งมีทั้งหมด 4 คำ ได้แก่
Challenge – ท้าทายต่อขีดจำกัด
กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ผลักดันความสามารถของเทคโนโลยีไปให้ไกลกว่าเดิม มาพร้อมดีเทลที่ลงตัวไม่ซ้ำใคร
Own – มรดกที่ตกทอดมารุ่นต่อรุ่น
Audemars Piguet แทบจะเป็นแบรนด์นาฬิกาสวิสเพียงหนึ่งเดียว ที่คนภายในตระกูลยังเป็นเจ้าของกิจการอยู่ เพื่อสืบสานเจตนารมย์ของบรรพบุรุษให้ยั่งยืน
Dare – ความปรารถนาอันแรงกล้า
ไม่ว่าจะประสบกับวิกฤตที่ถาโถมเข้ามาแค่ไหน Audemars Piguet พร้อมจะฝ่าฝันทุกอุปสรรคด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
Evolve – ไม่หยุดนิ่ง
ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และยังคงท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาที่ดีที่สุด
ทำไมต้อง 11.59?
เพราะ 11.59 คือตัวเลขสุดท้ายก่อนก้าวเข้าสู่วันใหม่ Audemars Piguet เป็นตัวเลขสุดท้ายที่จะบอกเวลาได้บนข้อมือของคุณและเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำเกมอยู่หนึ่งก้าวเสมอ
สำหรับนาฬิการุ่นนี้มีดีไซน์ที่เป็นหน้าปัดทรงกลม ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู คลาสสิก พร้อมเพิ่มลูกเล่นให้หน้าปัดดูมีมิติ รวมถึงลวดลายที่ร่วมมือกับช่างกิโยเช่ชาวสวิสที่มีชื่อว่า Yann von Kaenel เพื่อให้ได้ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับนาฬิกาคอลเลคชันนี้โดยเฉพาะ ถึงอย่างนั้นเมื่อหลาย ๆ องค์ประกอบรวมตัวกัน จึงกลายเป็นดีไซน์ที่หลาย ๆ คนต่างให้ความเห็นว่า ‘ถ้าไม่ชอบ ก็เกลียดไปเลย’
ด้วยการเลือกใช้หน้าปัดทรงกลมขนาด Unisex 41 42 และ 38 มม. โดยขนาดหน้าปัด 38 มม. ถือเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดทีเพิ่งเปิดตัวในปี 2021-2022 รวมถึงการเพิ่มตัวเรือนที่เป็นวัสดุแบบ Pink Gold 18k เข้ามาด้วย เท่ากับว่า Code 11.59 ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสุภาพบุรุษเท่านั้น ทางแบรนด์ยังต้องการที่จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสุภาพสตรีอีกด้วย
รวมถึงตัวเรือนและสายสีงาช้างและสีม่วงที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อน นอกจากนี้ Audemars Piguet ยังมีความตั้งใจที่จะนำรูปทรงแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นไอคอนของทางแบรนด์เข้ามาประยุกต์ใช้ผ่านลวดลายบนหน้าปัดอีกด้วย
หากมองด้านความสวยงามแล้วนาฬิกาเรือนนี้ เปรียบได้ว่าเป็นดั่งงานศิลปะที่ประดับอยู่บนแขนของผู้สวมใส่ เพราะเปี่ยมไปด้วยความประณีต หรูหราและเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว
โดยในปี 2023 สิ่งที่อัปเดตขึ้นในคอลเลคชันนี้ก็คือการเลือกใช้ตัวเรือนที่ผลิตด้วยสแตนเลสสตีลทั้งหมด รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Audemars Piguet ตั้งใจประกอบสร้างขึ้นมาเป็น Code 11.59 เนี้ยบไปถึงการออกแบบหน้าปัดให้สามารถอ่านเวลาได้ง่าย ๆ ผ่านการรังสรรค์เข็มนาฬิกาด้วย White Gold 18k ที่มีเหลี่ยมมุม การจัดเงา เพื่อสร้างคอนทราสต์ให้สะดุดตา ตัวเข็มและหลักชั่วโมงยังถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super LimiNova สำหรับการมองเห็นที่ชัดเจนในที่มืดอีกด้วย
ในคอลเลคชันนี้มีให้เลือกทั้งหมด 6 กลไก โดย 3 ใน 6 เป็นกลไกที่ผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมด ได้แก่ Caliber 4302 กลไกไขลานอัตโนมัติ จับเวลาแบบ Column Wheel และฟังก์ชัน Flyback สามารถจับเวลาครั้งใหม่ได้โดยไม่ต้องหยุดหรือรีเซตเข็มเวลาก่อน, Caliber 4401 กลไกไขลานอัตโนมัติพร้อมเข็มวินาทีและช่องแสดงวันที่, Caliber 2950 Flying Tourbillon กลไกแสนซับซ้อนที่ช่วยชดเชยความคลาดเคลื่อนของจักรกลที่เป็นผลมาจากแรงโน้มถ่วง
และนี่ก็คือ Code 11.59 นาฬิกาที่สะท้อนอัตลักษณ์ DNA ประวัติศาสตร์ การออกแบบของ Audemars Piguet ได้เป็นอย่างดี ท่านใดที่เป็นนักสะสมนาฬิกา AP ตัวยง ไม่ควรพลาดในการเก็บสะสมด้วยประการทั้งปวง
ยลโฉม Audemars Piguet Code 11.59 และนาฬิกาแบรนด์หรูอื่น ๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้ที่เว็บไซต์ Siam Watch Club ร้านขายนาฬิกามือสอง และรับซื้อนาฬิกามือสอง ที่ได้ รวมแบรนด์ชั้นนำหลากหลายยี่ห้อจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว