ไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะข้ามปี 2024 ทาง Omega ก็ได้ออกนาฬิกา Dark Side of the Moon รุ่นใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Apollo 8” เป็นตัวอัพเกรดของรุ่นก่อนหน้าตั้งแต่ปี 2018 โดยเปลี่ยนเข็มวินาทีเป็นจรวดขนาดเล็กของ Saturn V ซึ่งเป็นการเพิ่มรายละเอียดบนหน้าปัดได้อย่างโดดเด่น
การเปิดตัว Omega รุ่นใหม่ในปี 2024 นั้น ยังไม่มีอะไรที่แน่นอน ทาง Siam Watch Club ได้ทำการคาดเดาจากว่าจะมีนาฬิการุ่นไหนเปิดตัวใหม่บ้าง แต่นี่อาจจะเป็นเพียงการเดา มาดูกันว่า 5 เรือนนาฬิกาในความคาดหวังที่เราอยากจะเห็นนั้นมีอะไรกันบ้าง
A White Dial Omega Speedmaster
เมื่อปลายปีที่แล้ว Daniel Craig ปรากฏตัวที่งาน Omega พร้อมกับนาฬิกา Speedmaster ลึกลับเรือนนึงที่มีหน้าปัดสีขาว แน่นอนว่ามันดูเหมือน Speedy ทั่วไปที่มีโลโก้ Speedmaster สีแดง เข็มสีดำ และลูมสีขาว ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว
Danny Milton คนวงในของ Omega ได้กล่าวไว้ว่า “ฉันเข้าใจ แม้ว่าโอเมก้าจะไม่พูดออกไปตรงๆ แต่นาฬิกาที่ Daniel Craig สวมใส่ในงาน มีกำหนดเปิดตัวในปี 2024 และการที่เขาสวมใส่เรือนนี้ ทำให้คนนอกที่ไม่เคยเห็นนาฬิกาเรือนนี้มาก่อนได้ประจักสู่สายตาเป็นครั้งแรก ”
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก โอเมก้า สปีดมาสเตอร์ ใหม่ 2024 เรือนนี้ดูค่อนข้างจะเป็นอะไรที่คล้ายและเหมือนจะกลิ่นอายของ Speedmaster “Alaska Project” รุ่นที่แฟนๆ Omega ต่างชื่นชอบ (รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย) โครงการอลาสก้าเป็นความพยายามอย่างลับๆของโอเมก้าในการสร้าง Speedmaster สำหรับภารกิจอวกาศและดวงจันทร์ โดยพื้นฐานแล้วพวกมันคือหน้าปัด Speedies สีขาวที่ตกแต่งโดยเน้นสีแดง
นี่คือสิ่งที่สายลับ 007 ที่เกษียณอายุแล้ว สวมใส่บนข้อมือของเขาเมื่อปีที่แล้ว อ้างอิงจากที่ Danny Milton ชี้ให้เห็น คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าหน้าปัดสีขาวบน Omega Seamaster Diver 300M ในปัจจุบัน ซึ่มีตัวอักษรสีแดง ขีดบอกเวลาสีดำMilton และเข็มนาฬิกาสีดำ แน่นอนว่ามันเป็น Speedmaster ที่หน้าตาดีเลยทีเดียว ถือเป็นการบอกใบ้แบบลับๆของ Omega ผ่านข้อมือของสายลับคนดัง
Omega Will Finally Address The Bracelet On The Seamaster Diver 300M
ปีที่แล้วเป็นวันครบรอบ 75 ปีของ Seamaster และแม้ว่าเราจะมีหน้าปัดไล่ระดับสีฟ้าใหม่สุดเท่ แต่ Seamaster ในรุ่นต่างๆ ก็แทบไม่มีอะไรอัปเดตเลย ด้วยการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Seamaster อย่างมากในปีที่แล้ว ฉันสงสัยว่าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับสายนาฬิกา Seamaster Diver 300M
เมื่อปีที่แล้ว Danny คาดการณ์ว่า Omega จะอัปเดตสายนาฬิกา Seamaster เช่นเดียวกับที่อัปเดตสาย Speedmaster ในปี 2021 การอัพเดต Speedy นั้นทำให้ Speedmaster มีโครงสร้างสายเรียวเล็กลง และตัวล็อคดีขึ้น อย่างที่ใครๆ ก็บอกคุณได้ว่า Seamaster นั้นเกินกำหนดมานานแล้วสำหรับการอัปเดตสายใหม่
ปีที่แล้ว Omega ได้เปิดตัว Spirate System ซึ่งเป็นวิธีการควบคุมแบบใหม่ที่ Omega กล่าวว่าจะช่วยให้ระบบสามารถควบคุมความแม่นยำให้เป็น 0/+2 วินาทีต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น Omega Boutique จะสามารถทำการปรับเปลี่ยนเหล่านี้ให้คุณได้ Omega กล่าวว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคาดว่า Spirate จะเปิดตัวในรุ่นอื่นๆ มากขึ้น
Spirate System เป็นเพียงตัวอย่างล่าสุดของนวัตกรรมทางเทคนิคของ Omega ตั้งแต่การป้องกันแม่เหล็กและการรับรอง METAS นับได้ว่า Omega เป็นผู้นำในการแสวงหาเทคโนโลยีล้ำสมัยมาโดยตลอด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Omega ได้เปิดตัวนาฬิกาที่ต้านแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ โดยมุ่งมั่นที่จะนำการรับรอง METAS มาสู่นาฬิกาในแค็ตตาล็อกส่วนใหญ่
Omega สนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาตั้งแต่ปี 1932 และปี 2024 เป็นปีแห่งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน มั่นใจได้ว่าโอเมก้าจะไม่ทำให้คุณลืมสิ่งนั้น ได้เปิดตัว Seamaster Diver 300M หนึ่งเรือนก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยประกาศ Seamaster “Paris 2024” Special Edition แบบทูโทน มีจำหน่ายเฉพาะในร้านบูติกในปารีสเท่านั้น
ที่จริงแล้วคุณอาจจะต้องการ มากกว่าแค่ความคาดหวังที่อยากเห็น Omega ทำสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่าง Seamaster 300M ในโลหะมีค่า และไม่มีโอกาสใดที่ดีไปกว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส
แค็ตตาล็อกปัจจุบันของ Omega ไม่มี Seamaster ทองคำแท้บนสายนาฬิกา โดยรุ่นที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Sedna Gold 300M บนสายยาง หรือ Canopus Gold 300M James Bond 60th Anniversary ถึงเวลาที่อยากเห็น Omega เปิดตัวนาฬิกา Seamaster 300M สีทองล้วนบนสายนาฬิกาโลหะ แบบเดียวกับที่ทำกับ Speedmaster
ไม่ว่าจะเป็น Sedna, Moonshine หรือ Canopus Gold ดูเหมือนว่าเมื่อเร็วๆ นี้ Omega ได้เพิ่มตัวเลือกกรอบเพชรให้กับ Speedy สีทอง ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่า Omega กำลังคิดหาวิธีที่จะยกระดับแบรนด์ด้วยนาฬิกาสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ลองกับ Seamaster Diver 300M ที่เป็นทองล้วนล่ะ?
อย่างไรก็ตามก็แอบสงสัยว่า Omega จะเปิดตัว Seamaster 300M ในวัสดุอย่าง Silver และ Bronze ซึ่งเหมาะกับเป็นปีโอลิมปิกในที่สุด แน่นอนว่าสิ่งนี้สามารถจะแข่งขันกับ Tudor ได้ดีกว่า Rolex และ Omega ก็มี Seamaster 300 ที่เป็นสีบรอนซ์ หรือก็คือ Bronze Gold อยู่แล้ว สีบรอนซ์น่าจะเหมาะกับโมเดลรุ่นเก่ามากกว่า แต่ตอนนี้เราอยู่ในการคาดเดา และจินตนาการ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?
A Modestly Sized, Heritage-Inspired Dress Watch
Omega ที่เราชื่นชอบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ CK859 และ Seamaster 1948 ทั้งสองรุ่นค่อนข้างที่จะมีความพิเศษอย่าง CK859 ผลิตได้ประมาณหนึ่งปีเท่านั้น และรุ่นปี 1948 ถือเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น
เกี่ยวกับเทรนด์ “Small Watch” หรือ “Dress Watch” เป็นที่ชัดเจนว่าแบรนด์ต่างๆ กำลังตระหนักถึงความต้องการนาฬิกาที่มีขนาดต่างๆ กันมากขึ้น ทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง หากคุณผลิตนาฬิกาในขนาดต่างๆ มากขึ้น ผู้คนก็จะซื้อนาฬิกามากขึ้น จริงๆ แล้วมันเป็นคณิตศาสตร์ง่ายๆ
เมื่อดูในแค็ตตาล็อกแล้วคุณจะเห็นตัวเลือกมากมายสำหรับรุ่นต่างๆ ในขนาดต่างๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า Omega ขายได้มากมาย แต่นั่นคือปัญหา – มันน่าสับสน มีรุ่น Constellation และ DeVille และแม้แต่คอลเลกชัน Aqua Terra สำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่ไม่ใช่ Seamaster 300M หรือ Speedmaster
แต่ฉันคาดการณ์ว่าในปีนี้ Omega จะเปิดตัวนาฬิกาที่ดูหรูหรายิ่งขึ้นซึ่งดึงเอามรดกตกทอดรุ่นเก่าๆ แต่ฉันมองว่านาฬิกาอย่าง CK859 ที่มีหน้าปัดแบบเซกเตอร์และ Seamaster 1948 เป็นการวางรากฐานในเมรด์นี้ แม้แต่เพื่อน Swatch Grouper อย่าง Longines ก็ยังคิดค้นนาฬิกาอย่าง Heritage Classic Sector Dial และ Master Collection Small Seconds